แคนนาบินอยด์และความสัมพันธ์กับร่างกายมนุษย์

(บทความโดย High Thailand)
ทุกคนคงจะได้ยินถึงเรื่อง THC และ CBD สองสารแคนนาบินอยด์ในต้นกัญชาแต่รู้ไหมว่าทำไมมันถึงมีความสำคัญที่ทำให้วงการแพทย์นั้นต้องหันมาให้ความสนใจ และมันมีปฎิกิริยาอย่างไรต่อร่างกายของเราถึงมีการกล่าวถึงคุณสมบัติการรักษาโรคต่างๆแม้กระทั่งมะเร็ง?
 ระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์
ร่างกายของมนุษย์ทุกคนมีต่อมรับแคนนาบินอยด์อยู่ในระบบประสาทโดยธรรมชาติคือ ระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ Endocannabinoid System (ECS) ซึ่งเป็นระบบทางสรีรวิทยาที่ควบคุมการทำงานและรักษาความสมดุลของร่างกาย ECS มีหน้าที่ช่วยการทำงานของเซลล์ต่างๆในระบบพลังงาน ระบบเผาพลาญ การลำเลียงสารอาหารและการเก็บรักษาพลังงาน โดยมีต่อมรับกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายคือ CB1 และ CB2
CB1 – อยู่ในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง (ฮิปโปแคมปัส – ทำหน้าที่หลักในเรื่องความจำ, ซีรีเบลลั่ม – ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและการทรงตัว)
CB2 – อยู่ในระบบภูมิคุ้มกัน (ในเนื้อเยื่อของม้าม) และในระบบประสาทรอบนอก
————————————————————————
 แคนนาบินอยด์นั้นมีปฎิกิริยาอย่างไรกับร่างกาย?
แคนนาบินอยด์ (cannabinoid) คือสารที่ทำปฎิกิริยากับหน่วยรับความรู้สึกของระบบประสาทในร่างกาย โดยจะช่วยการทำงานของเซลล์เช่น ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ความดันเลือดและอารมณ์ต่างๆ มันทำหน้าที่โดยกระตุ้นการทำงานของสารสื่อประสาท (neurotransmitter) กับตัวรับ (receptors) ในเซลล์ประสาท อวัยวะสำคัญต่างๆในร่างกายต่างมีต่อมรับเอ็นโดแคนนาบินอยด์เหล่านี้เพื่อทำหน้าที่ส่งสัญญาณบอกร่างกายถึงอาการและอารมณ์ต่างๆเช่น หิว เจ็บ ง่วง
การค้นพบสารแคนนาบินอยด์ตัวหลักที่ออกฤทธิ์ทางประสาทในพืชกัญชานั้นต่างทำให้ผู้คนเข้าใจการทำงานของกัญชามาขึ้น แต่ไม่ใช่แค่นั้น… หลังจากที่มีการศึกษาและวิจัยก็ได้มีการค้นพบว่ามนุษย์นั้นก็มีสารแคนนาบินอยด์ที่ผลิตขึ้นในร่างกายได้เองเช่นเดียวกัน!
ด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติหรือเป็นเพราะความบังเอิญล้วนๆ มนุษย์และกัญชานั้นดูมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งร่วมกันด้วยสารตัวนี้… แคนนาบินอยด์จึงแบ่งออกได้เป็นสามประเภทหลักๆดังนี้
1. แคนนาบินอยด์ในสิ่งมีชีวิต (Endocannabinoid) : เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พบได้ในมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด
2. แคนนาบินอยด์ในธรรมชาติ (Phytocannabinoid) : จะพบได้ในต้นแคนนาบิส
3. แคนนาบินอยด์สังเคราะห์ (Synthetic cannabinoid) : เป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นในแล็ป
(ที่มีคำว่า canna- นำหน้าก็เพราะว่ามีการค้นพบสารแคนนาบินอยด์ในกัญชาก่อนที่จะค้นพบว่ามนุษย์นั้นก็มีการผลิตสารนี้เช่นเดียวกัน *เนื่องจากกัญชาโดนขึ้นทะเบียนให้ผิดกฎหมาย การค้นคว้าวิจัยนั้นก็ถูกควบคุมอย่างเข้มโดยรัฐบาลและอนุญาตให้มีการทดลองเฉพาะสัตว์เช่น หนูและลิงตั้งแต่ช่วงปลายปี 1930)
————————————————————————
 ความเกี่ยวของระหว่างแคนนาบินอยด์ในกัญชาและในร่างกายมนุษย์
1. แคนนาบินอยด์ในสิ่งมีชีวิต (endocannabinoid) : เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พบได้ในมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิด
ซึ่งมีสารสำคัญสองตัวคือ Anandamide และ 2-AG
• อะนันดาไมด์ (Anandamide ซึ่งเป็นภาษาสันสกฤตของคำว่า ananda แปลว่า ความสุขสำราญ) หน้าที่ของมันก็จะทำการควบคุมอุณหภูมิในร่างกายและลดความเจ็บปวด
• 2-AG ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจและปรับความดันเลือดในร่างกาย
“เอ็นโดแคนนาบินอยด์ใน CB1 ของระบบประสาทจะมีบทบาทต่อการควบคุมความเจ็บปวด ความจําและการเคลื่อนไหว และการควบคุมกระบวนการเผาผลาญของไขมันและกลูโคส เพื่อรักษาสมดุลของพลังงานในร่างกาย” – วิมล พันธุเวทย, สาขาวิชาชีวเภสัชศาสตร คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
มันทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบประสาท หัวใจและระบบภูมิคุ้มกัน มันทำหน้าที่ส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ แคนนาบินอยด์ เรามักจะรับรู้ความรู้สึกเจ็บหรือหิว ควบคุมการเคลื่นไหวและการตอบสนอง ระบบภูมิคุ้มกัน และการตอบสนองต่อการอักเสบในร่างกาย
2. แคนนาบินอยด์ในธรรมชาติ (Phytocannabinoid) : จะพบได้ในต้นแคนนาบิส
ในต้นแคนนาบิสหรือต้นกัญชานั้นมีสารต่างๆมากกว่า 400 ชนิด ปัจจุบันมีการค้นพบสารแคนนาบินอยด์ในกัญชากว่า 113 สาร โดยสารที่มีคุณลักษณะโดดเด่นอยู่ 2 ชนิดหลักๆคือ เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล (THC) และแคนนาบิไดออล Canabidiol (CBD)
THC และ CBD นั้นเป็นส่วนหนึ่งของสารแคนนาบินอยด์ที่อยู่ในต้นแคนนาบิส และหลังจากนั้นก็มีการค้นพบสารแคนนาบินอยด์อื่นๆเช่น THCV THCA CBN CBL CBC ฯลฯ ซึ่งเริ่มมีการค้นพบมากขึ้นหลังจากที่บางประเทศและหลายรัฐในอเมริกานั้นให้กัญชากฎหมาย นักวิจัยจึงสามารถมุ่งหน้าทำการทดลองกับต้นพืชมหัศจรรย์นี้ได้
แน่นอนว่าเวลาพูดถึง THC นั้นคือการบอกถึงค่าวัดความแรงหรือ Potency ของกัญชาสายพันธุ์นั้น แต่หลักๆแล้วทุกคนมักจะได้ยินถึงคำว่า THC เป็นเพราะว่ามันได้ถูกค้นพบเป็นสารที่ทำให้เกิดปฎิกิริยาในร่างกายเป็นตัวแรก (และเป็นสารสำคัญที่ทุกคนต้องการเพื่อให้เมา) แต่นักเคมีก็มาค้นพบทีหลังว่ามันไม่ได้เป็นสารที่เด่นในกัญชาตัวเดียว! เพราะเจ้า CBD เนี่ยมันมีส่วนทำงานร่วมไปด้วยกันกับ THC และมีประโยชน์ไม่น้อยกว่ากันเลย
2.1 เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol) หรือ THC เป็นสารตัวหลักที่ออกฤทธิ์ต่อประสาท (psychoactive)
หากเปรียบแคนนาบินอยด์ในต้นกัญชา THC ถือได้ว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวกันเลยทีเดียว แน่นอนที่สุดว่า THC นั้นมีชื่อเสียงได้เพราะว่ามันเป็นสารที่ส่งผลกระทบต่อประสาทและสมองซึ่งทำให้เรารู้สึก’เมา’นั่นเอง THC นั้นเลียนแบบการทำงานของอะนันดาไมด์ (แคนนาบินอยด์ในสิ่งมีชีวิต) โดยการเชื่อมกับเซลล์ประสาทในสมอง CB1 และทำให้เกิดความเมาหรือ high ที่มาจากการสูบกัญชา เช่นเดียวกับอาหารหิวหรือ munchies ที่ได้หลังจากการสูบเพราะมีการกระตุ้นในสมองในส่วนที่สั่งการหิวของร่างกาย
อีกทั้ง THC มีการการกระทบส่วนของสมองที่ใช้จำจึงอธิบายได้ว่าทำไมเราถึงขี้หลงขี้ลืมเวลาสูบกัญชา แต่มันไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นข้อเสียอย่างเดียว เพราะทางการแพทย์เชื่อว่ามันเป็นตัวยาสำคัญที่จะสามรถช่วยคนที่เป็นโรคเครียดหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรง Post-Traumatic Stress Disorder (PTSD) เช่นเหล่าทหารที่กลับมาจากการรบ มักเกิดอาการหลอนและนอนไม่หลับ อีกทั้งมีส่วนช่วยในการลดอาการปวดเพราะ THC ได้เข้าไปช่วยยับยั้งการอักเสบที่เกิดขึ้นในระบบภูมิคุ้มกันใน CB2 ซึ่งเป็นผลมาจากการกระตุ้นจากแคนนาบินอยด์เหมือนกัน
คุณสมบัติของ THC นั้นมาจากความสามารถที่จะเชื่อมเข้ากับโปรตีนซึ่งอยู่บนผิวของเซลล์ต่างๆและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆในเซลล์แต่ไม่ใช่แค่นั้น สารตัวนี้ช่วยประสานการทำงานของเซลล์ให้ทำงานดีและปกติเช่น การทำงานของร่างกาย ซ่อมแซมและเสริมสร้าง
2.2 แคนนาบิไดออล (Cannabidiol) หรือ CBD เป็นสารตัวสำคัญอีกตัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ต่างจาก THC ตรงที่ไม่มีสารออกฤทธิ์ต่อประสาท (non-psychoactive compound)
นับเป็นสารสำคัญอันดับที่สองในกัญชา เนื่องจากคุณสมบัติและประโยชน์ของมันที่ช่วยลดการอักเสบ (anti-flammatory) และยับยั้งการผลิตสารที่ทำให้เกิดอาการปวด อาการวิตกกังวล และเครียด มีการออกฤทธิ์ด้านการระงับประสาท (Sedative) เหมาะกับเป็นยาคลายกังวลและยานอนหลับได้เป็นอย่างดี พร้อมกับออกฤทธิ์ลดอาการชัก (anticonvulsive) อีกทั้งมีฤทธิ์เป็นยาต้านโรคจิต (anti-psychotic) ซึ่งแพทย์บอกว่าอาจจะเป็นตัวยาที่จะมาช่วยผู้ป่วยโรคที่มีความผิดปกติของความคิดประเภทเรื้อรัง (Schizophrenia) และที่สำคัญคือ สามารถสกัดเพื่อใช้ด้านการแพทย์โดยที่ไม่ออกฤทธิ์เมาให้กับผู้ป่วยที่เป็นเด็กและผู้ชราได้
อีกทั้งช่วยอาการคลื่นไส้อาเจียน และออกฤทธิ์ยับยั้งการทำลายของเซลล์ประสาทในสมอง (Neurodegenerative) โรคที่เกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาท เช่นโรคต่างๆของ พาร์กินสันและอัลไซเมอร์ อีกทั้งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเซลล์ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง พร้อมกับทำให้เซลล์มะเร็ง(เซลล์ที่ทำงานผิดปกติ)ทำลายตัวเอง พร้อมกับช่วยดูแลเซลล์สมองและปกป้องระบบประสาท
และด้วยความสนับสนุนของ CBD การออกฤทธิ์ต่างๆของ THC จะมีผลและประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับมีฤทธิ์ทางด้านการป้องกันเซลล์สมอง Neuroprotective และทำลายเซลล์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นมะเร็ง และทำการปกป้องเซลล์ที่แข็งแรง
————————————————————————
บางคนอาจสงสัยว่าในเมื่อร่างกายเรามีสารตัวนี้อยู่แล้วทำไมจึงต้องหามาเพิ่ม? นั่นก็เพราะว่าเอ็นโดแคนนาบินอยด์ที่ผลิตขึ้นเองในร่างกายนั้นออกมาในปริมาณที่น้อยและมี half-life ที่สั้นมาก พอเราไม่สบายหรือมีอาการป่วยต่างๆกัญชาจึงมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บปวด ปรับอารมณ์ และซ่อมแซมเซลล์ที่อ่อนแอ
————————————————————————
สรุปจากบทความ
– หน้าที่ของระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ในร่างกายมนุษย์ทำหน้าที่ควบคุม ให้ร่างกายทำงานปกติ
– แคนนาบินอยด์คือสารที่มีในต้นกัญชาและร่างกายมนุษย์โดยธรรมชาติ: อะนันดาไมด์และ 2-AG คือแคนนาบินอยด์ที่อยู่ร่างกาย ส่วนพวก THC และ CBD คือแคนนาบินอยด์ที่อยู่ในกัญชา
– ต่อมรับแคนนาบินอยด์นั้นเรียกว่า CB1 และ CB2
– สารแคนนาบินอยด์จากกัญชา กระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทและช่วยเซลล์ที่ผิดปกติหรือไม่แข็งแรง

Leave a Comment